15 วิธีคุมกำเนิด
1. ถุงยางอนามัย เป็นวิธีคุมกำเนิดที่เก่าแก่ที่สุด และยังเป็นการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย
2. ยาคุมกำเนิด มีฮอร์โมนเอสโตรเจนและเจสตาเจน (Gestagen) ฮอร์โมนทั้งสองตัวนี้จะป้องกันไม่ให้ไข่ตก
และเปลี่ยนแปลงเยื่อบุโพรงมดลูกให้ไม่เหมาะแก่การฝังตัว ทั้งนี้ต้องกินยาคุมกำเนิดติดต่อกันทุกวันเป็นเวลา
3 สัปดาห์และหยุดพักหนึ่งสัปดาห์ที่จะมีประจำเดือนในช่วงนั้นวิธีนี้เป็นวิธีที่ปลอดภัยมาก
และยังช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือนได้ด้วยแต่อาจทำให้ผู้หญิงที่สูบบุหรี่เกิดโรคโลหิตหรือน้ำเหลืองคั่งได้ทำให้อารมณ์เพศลดลง
และอาจทำให้ผู้หญิงเกิดโรคลิ่มเลือดแข็งตัวในหลอดเลือด
3. ยาคุมกำเนิด Desogestrel และ Levonorgestrel มีเพียงฮอร์โมนเจสตาเจนเท่านั้น
ที่จะป้องกันไม่ให้ไข่ตกและป้องกันไม่ให้สเปิร์มผ่านเข้าไปในมดลูกซึ่งเป็นวิธีที่ปลอดภัยมากและยังช่วยลดอาการปวดท้องประจำเดือนด้วยแต่ต้องกินยานี้ทุกวัน ข้อเสียคือ ทำให้มีเลือดออกกะปริดกะปรอยในระยะแรกของการใช้
ส่วนมากจะใช้ในกรณีตลอดบุตรใหม่ ๆและต้องการให้นมบุตร
4. ยาคุมกำเนิดหลังมีเพศสัมพันธ์ เป็นยาที่มีความแรงของตัวยาและต้องให้แพทย์สั่งในกรณีฉุกเฉิน
เช่นมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ตั้งใจไม่ได้ป้องกันหรือมีความเสี่ยงกับการตั้งครรภ์ที่มีไม่พึงปรารถนา
ยานี้ต้องกินภายใน 72ชม. หลังการมีเพศสัมพันธ์ยิ่งกินยาได้เร็วเท่าไหร่ ก็จะปลอดภัยมาก
5. คุมกำเนิดแบบฉีด 3 เดือน เป็นยาฉีดที่มีฮอร์โมนเจสตาเจนโดยการฉีดเข้ากล้ามเนื้อที่สะโพก
หรือต้นแขนมีผลควบคุมไม่ให้ตั้งครรภ์ได้ 3เดือน มีความปลอดภัยในการคุมกำเนิดสูง
และช่วยลดอาการปวดท้องระหว่างมีรอบเดือน แต่เป็นยาที่มีฮอร์โมนสูง
6. ฝังไว้ที่ผิวหนัง มีลักษณะเป็นแท่งพลาสติก มีขนาดเท่าไม้ขีด
มีฮอร์โมนเจสตาเจนโดยใช้การใส่เข้าไปที่ต้นแขนใต้ผิวหนังของผู้หญิงป้องกันไข่ตกและป้องกันไม่ให้สเปิร์มเข้าไปในรังไข่
หลังจาก 3 ปีก็ให้แพทย์เอาออก
เป็นวิธีที่ปลอดภัยแต่วิธีนี้อาจทำให้มีแผลเป็นเล็ก
ๆและมีเลือดออกกะปริดกะปรอยในระยะแรกเมื่อใช้ไประยะหนึ่งก็จะหาย
7. การใส่ห่วง เป็นห่วงที่ทำจากพลาสติกขนาดเล็กและมีขดลวดทองแดงเล็กๆ
(Copper-T)พันรอบห่วง
ใช้สำหรับคุมกำเนิดอย่างเดียวโดยผู้หญิงจะใส่ห่วงในช่วงมีรอบเดือน เพราะใส่ง่าย
มีอายุคุมกำเนิดได้ถึง 5ปี
เป็นห่วงที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนและเจสตาเจนน้อย สามารถคุมกำเนิดได้ 5 ปี
8. การวัดฮอร์โมนตกไข่ เป็นวิธีทดสอบปัสสาวะของผู้หญิง
โดยการใช้แท่งตรวจจุ่มลงไปในปัสสาวะเพื่อตรวจสอบฮอร์โมนในปัสสาวะและคำนวณวันที่ไข่จะตก
9. การวัดอุณหภูมิ เพื่อความมั่นใจในการคุมกำเนิด
จำเป็นต้องหมั่นวัดอุณหภูมิร่างกายทุกวันในช่วงเวลาเดียวกันและในตำแหน่งเดิม
เพื่อจะได้รู้วันไข่ตกที่แน่นอน
10. นับวันจากปฏิทิน เป็นวิธีที่ผู้หญิงต้องมีปฏิทินประจำตัว
เป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกเหมาะกับผู้หญิงที่มีประจำเดือนสม่ำเสมอ (28 วัน)แต่ช่วงไข่ตกก็ต้องใช้วิธีอื่นคุมกำเนิด
11. สังเกตมูกจากปากมดลูก เป็นวิธีคุมกำเนิดอย่างธรรมชาติและเป็นวิธีที่ประหยัดโดยผู้หญิงต้องสังเกตมูกตกขาวจากปากมดลูก
(Cervical Mucus)ทุกวันและจดโน้ตไว้เพื่อดูวันที่ไข่ตก
12. วิธีคุมกำเนิดแบบ Sympto Thermal เป็นวิธีคุมกำเนิดอย่างธรรมชาติ
โดยการผสมผสานระหว่างอุณหภูมิและการสังเกตมูกตกขาววิธีนี้ค่อนข้างปลอดภัยถ้าผู้หญิงหมั่นสังเกตตัวเอง
13. Coitus
lnterruptus เป็นวิธีที่ฝ่ายชายหลั่งอสุจิข้างนอกหลังการมีเพศสัมพันธ์ แต่สเปิร์มอาจเล็ดลอดออกไปได้ก่อนหน้านั้น
จึงไม่แนะนำ
14. การทำหมันชาย วิธีนี้ใช้การผ่าตัดเพียงนิดเดียวในผู้ชายเพื่อตัดท่ออสุจิ
เหมาะกับผู้ชายที่ไม่ต้องการมีลูกอีก ป้องกันการตั้งครรภ์ได้สูง
15. การทำหมันหญิง คือกรรมวิธีการตัดบางส่วนหรือแยกท่อนำไข่ออกจากกันทั้ง
2 ข้างทำให้ไม่เกิดการปฏิสนธิ
การแก้ไขเพื่อให้ท่อนำไข่สู่ภาวะปกติก็ทำได้แต่ค่อนข้างยุ่งยากเพราะต้องอาศัยการผ่าตัดผ่านกล้องจุลทรรศน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น